สมาคมหมูเตรียมร้องนายกฯ เข้มคดี “หมูเถื่อน” หลังพบ “เขตปลอดอากร” กลายเป็นพื้นที่ขนถ่ายของเถื่อน

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเตรียมเคลื่อนไหวยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงมาเกาะติดการทำคดี หมูเถื่อน อีกครั้งหนึ่ง  หลังพบคดีไม่คืบมานานกว่า 1 เดือน พร้อมฝากเพิ่มประเด็น DSI พบการใช้ “เขตปลอดอากร” หลายจังหวัดเป็นพื้นที่ยักย้ายถ่ายเทหมูเถื่อน หวั่นเรื่องเงียบเอื้อขบวนการผิดกฎหมายขนหมูเถื่อนขายทั่วไทยได้โดยง่าย

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่าสมาคมฯเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังคดีหมูเถื่อนไม่มีความคืบหน้ามากว่า 1 เดือน พร้อมตั้งคำถามถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมศุลกากรโดยตรง 

“คดีหมูเถื่อนในช่วงหลังมานี้ไม่มีความคืบหน้า  คล้าย ๆ เจออิทธิพลเข้าจึงหยุดชะงักไปดื้อ ๆ ขณะเดียวกัน  DSI ก็ค้นพบวิธีการขนถ่ายหมูเถื่อน เพื่อกระจายขายในจังหวัดต่างๆ โดยอาศัยการขอพื้นที่พิเศษที่เรียกว่า “เขตปลอดอากร” ในหลายจังหวัด เช่น จ.นนทบุรี จ.ระยอง มาเป็นพื้นที่ในการขนย้ายถ่ายเท จากนั้นตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการส่งตู้เปล่าทำทีว่าส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว กรณีเช่นนี้ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ขบวนการหมูเถื่อนที่กรมศุลกากร ผู้ให้อนุญาตพื้นที่ฟรีโซนต้องตอบเกษตรกรให้ได้” นายสิทธิพันธ์กล่าว 

ทั้งนี้ เขตปลอดอากร(Free Zone) ในเว็บไซด์กรมศุลกากร ระบุว่าหมายถึงพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ โดยผู้ที่ประสงค์จะจัดตั้งเขตปลอดอากรสามารถยื่นเรื่องขออนุญาตได้ และต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี ในทางปฏิบัติจะมีลักษณะเหมือนการนำสินค้าเข้ามายังโรงงานหรือพื้นที่ที่ขออนุญาตไว้เพื่อแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้า แล้วส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าและขาออก

แต่กรณีของ “หมูเถื่อน” พบพฤติการณ์ว่าไม่มีการแปรรูปใดๆ แต่จะใช้พื้นที่ฟรีโซนที่ขออนุญาตจากกรมศุลกากร เป็นพื้นที่ถ่ายเทของ โดยจะมี “กองทัพมด” ทยอยขนหมูเถื่อนออกจากตู้คอนเทนเนอร์ ไปเก็บตามห้องเย็นนอกเขตปลอดอากรเพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้าในประเทศไทย ขณะเดียวกันเมื่อขนถ่ายหมดแล้วจะทำทีเป็นส่ง “ตู้คอนเทนเนอร์เปล่า” ข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านเสมือนมีสินค้าอยู่ข้างใน แล้วค่อยเวียนตู้เปล่ากลับมาไทยอีกครั้ง ทุกขั้นตอนมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ ดังปรากฏในบัญชีส่วยที่ DSI ยึดได้ “หมูเถื่อนกัดกินหมูไทยมากว่า 2 ปี สร้างความเดือดร้อนแสนสาหัสให้ประเทศไทย จำนวนของผิดกฏหมายที่ลักลอบเข้าประเทศมาอย่างมหาศาล เป็นอีกตัวแปรสำคัญในการกดดัน GDP ปีที่แล้วของประเทศให้เติบโตต่ำเพียง 1.8% จึงอยากขอวอนท่านนายกเศรษฐาลงมากำกับดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิดด้วยตนเองอีกครั้ง เพื่อกำจัดขบวนการนี้ให้สิ้นซากเสียที” นายสิทธิพันธ์กล่าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related News