ปศุสัตว์ไทยส่งออกแตะ 2.8 แสนล้าน คาดปี 66 ทะลุ 3 แสนล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่ายอดส่งออกสินค้าปศุสัตว์ที่ใช้เป็นอาหารของไทยในปี 2565 มูลค่าส่งออกสูงถึง 2.8 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ คาดการณ์ว่าในปี 2566 ยอดส่งออกอาจสูงถึง 3 แสนล้านบาท

โดยการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทย ช่วง 11 เดือนของปี 2565 มีมูลค่ารวม 274,822 ล้านบาท คาดการณ์ว่าทั้งปีจะส่งออกได้มูลค่า 280,326 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.60% มีปริมาณส่งออกกว่า 2.42 ล้านตัน และ สัตว์มีชีวิตอีก 24 ล้านตัวต่อฟอง ทั้งนี้แบ่งการส่งออกเป็น

1. เนื้อสัตว์แช่แข็ง มูลค่า 142,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ส่งออกมูลค่า 1.12 แสนล้านบาท หรือ 26%

2. สินค้าที่มาจากสัตว์หรือไม่ได้มาจากสัตว์ (Non-frozen) เพิ่มขึ้นจาก 23,135 ล้านบาท เป็น 25,650 ล้านบาท หรือ 11 %

3. อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) เพิ่มขึ้นจาก 70,991 ล้านบาท เป็น 90,228 ล้านบาท หรือ 27%

4. อาหารปศุสัตว์ เพิ่มขึ้นจาก 10,471 ล้านบาท เป็น 11,641 ล้านบาท หรือ 11%

5. สัตว์มีชีวิต (ไก่,หมู) ลดลงเหลือ 5,147 ล้านบาท จากปีก่อนที่ส่งออกมูลค่า 13,345 ล้านบาท ลดลง 62%

6. ซากสัตว์ (Non-edible) เพิ่มขึ้นจาก 3,638 ล้านบาท เป็น 5,504 ล้านบาท หรือ 51% โดยถือว่าในปี 2565

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่ากรมปศุสัตว์คาดการณ์ว่า ในปี 2566 การส่งออกสินค้าปศุสัตว์อาจสูงถึง 300,000 ล้านบาท โดยมีสินค้าหลักคือ เนื้อไก่ ที่มีปริมาณความต้องการบริโภคของตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน และสหภาพยุโรป ทำให้การผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3%

นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่ออาหารสัตว์เลี้ยงของไทย มีโอกาสส่งออกเพิ่ม ทั้งในประเทศ และ ตลาดโลก เนื่องจากอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยมีคุณภาพ มาตรฐาน ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคฐานตลาดผู้เลี้ยงสัตว์ และมีกระบวนการการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ได้ควบคุมคุณภาพมาตรฐานระบบ GMP และระบบ HACCP ในสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก เยอรมนี และ สหรัฐฯ

“นายกรัฐมนตรีชื่นชม และ ขอบคุณการทำงานของทุกหน่วยงาน และ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ที่ใส่ใจดูแล ควบคุม คุณภาพ และปัจจัยการผลิตสินค้า จนถึงมาตรการส่งออกสู่ท้องตลาด ให้ได้มาตรฐาน ทำให้สินค้าปศุสัตว์ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงาน ให้ช่วยกันพัฒนาศักยภาพ ดูแลทุกกระบวนการ เพื่อคุณภาพที่ดีของสินค้า และ เป็นภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือที่สำคัญของสินค้าไทย” นายอนุชาฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการที่ประเทศไทยเคยตั้งเป้าเป็นครัวของโลกด้านเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ณ ปัจจุบัน สามารถกล่าวได้ว่าประเทศไทยค่อนข้างมีความพร้อม เพราะทั้งภาครัฐและเอกชนมีนโยบายและความร่วมมือไปในทิศทางเดียวกัน โดยภาครัฐทำหน้าที่วางมาตรฐานการผลิตอาหารคุณภาพ ขณะที่ภาคเอกชนทำหน้าที่พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเพื่อแข่งขันในตลาดโลกไม่ใช่แข่งแต่ประเทศในภูมิภาคนี้เท่านั้น

ตัวอย่างการส่งออกเนื้อไก่ของไทยซึ่งปัจจุบันส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยตลาดใหญ่ คือ ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (EU) ก็ได้เข้ามาตรวจสอบระบบการผลิตของไทย ตลอดห่วงโซ่การผลิต ไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกเท่านั้นแต่ตรวจมาตรฐานการผลิตทั้งประเทศเพราะสินค้าที่ผลิตเพื่อการส่งออกกับบริโภคภายในประเทศจะต้องทำในรูปแบบและวิธีการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอของคุณภาพผลผลิต อันจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค สำหรับการผลิตไก่เนื้อของประเทศไทย ณ วันนี้ สามารถกล่าวได้ว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ

ดังนั้น ถ้าไทยต้องการเป็นครัวของโลกอย่างแท้จริง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตต้องมีเป้าหมายเดียวกันและมีความร่วมมือกันอย่างจริงจังทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงต้องมีการพัฒนาเกษตรกรและทุกภาคส่วนที่อยู่ในกระบวนการผลิตให้มีความตื่นตัวและผลักดันไปในทิศทางเดียวเช่นกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related News