รวมสถานการณ์เด่นในวงการปศุสัตว์ประจำปี 2565

ในที่สุดเวลาก็เดินทางมาจนถึงปลายปี 2565 กันแล้ว ด้วยความพยายาม และอดทนของเกษตรกรทุกท่านในวงการปศุสัตว์ เริ่มด้วยสถานการณ์ที่ใกล้ตัวกับโรค COVID-19 ดูจะคลี่คลายกันไปบ้างเล็กน้อย เพราะได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว ให้เราได้หายใจหายคอกันทั่วท้องบ้าง แต่อย่างไรก็ตามห้ามประมาท การ์ดอย่าตก เนื่องจากมีกระแสข่าวผู้ติดเชื้อที่เริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ส่วนสถานการณ์สำคัญในวงการปศุสัตว์จะได้สรุปรวมเรื่องเด่นๆ มาไว้เป็นบันทึกความทรงจำ มิให้ลืมเลือนกัน อันจะนำไปสู่การป้องกัน และแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีในภายภาคหน้า

เริ่มข่าวร้ายกันตั้งแต่ต้นปี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 กรมปศุสัตว์ได้แถลงอย่างเป็นทางการณ์ว่าพบโรค ASF ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกจากตัวอย่างในจังหวัดนครปฐม ส่งผลให้เกิดการตื่นตัว ร่วมมือกันจัดการ แก้ไข กำจัด และป้องกันโรคอย่างจริงในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนเกษตรกรทุกฟาร์มที่เกี่ยวข้อง ปีที่ผ่านมายังคงเห็นภาพความเสียหายในเกือบทุกภาคของประเทศ โดยมีการคาดการณ์กันว่า ASF ทำให้สุกรในระบบลดลงเกือบ 50% โดยแม่พันธุ์เหลือประมาณ 5 แสนตัว และสุกรขุนเหลือประมาณ 12-13 ล้านตัว (ข้อมูลประมาณการณ์ ไม่ใช่ข้อมูลยืนยันทางการ โปรดใช้วิจารณญาณ) แต่ก็ถือว่าเรารับมือได้ดีกว่าหลายประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีภาพความเสียหายรุนแรงมากมายมหาศาลออกมาให้เห็นกันก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบันประเทศไทยมีรายงานการเกิดโรคไปแล้วทั้งหมดใน 34 จังหวัด 93 อำเภอ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเพิ่มปริมาณสุกรทั้งแม่พันธุ์ และสุกรขุนเข้ามาในระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับฐานไปยังสมดุลจุดใหม่ โดยใช้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ เป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไข และจัดการปัญหานี้

ในส่วนของวัคซีนป้องกันโรค ASF นั้น ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการ จนออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาดได้ โดยล่าสุดประเทศเพื่อนบ้านเรานั้น ได้มีการผลิตวัคซีนจนเกือบจะสำเร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนของการทดลองทั่วประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในหลายพื้นที่ได้ประกาศหยุดการทดลอง เนื่องจากพบว่าหลังใช้วัคซีนไปแล้ว สุกรมีอาการป่วยคล้ายคลึงกับการติดเชื้อ ASF จนทำให้สุกรตายไปหลายพันตัว ทั้งนี้คาดการณ์กันว่าอาจเกิดจากเชื้อไวรัสวัคซีนมีการรวมกันใหม่ของสารพันธุกรรม หรือที่มักเรียกกันว่า recombination กับเชื้อที่รุนแรงในธรรมชาติ จนเกิดกลายพันธุ์ และกลับมามีศักยภาพในการก่อโรคและอาการที่รุนแรงได้ ส่วนอีกประเทศที่มีปริมาณสุกรมากที่สุด ก็ได้ทำการสร้าง และทดลองวัคซีนในสถาบันหลายแห่งเช่นเดียวกัน แต่วัคซีนตัวล่าสุดก็ไม่ผ่านการอนุมัติให้ผลิตและนำมาใช้ เนื่องจากว่ามีการแพร่เชื้อจากแม่ไปสู่ลูก มีการตรวจพบเชื้อไวรัสในสารคัดหลั่งเกือบทั้งหมด สุกรมีอาการป่วย โตช้า ตาย และยังพบความเสี่ยง

ต่อการกลายพันธุ์ในธรรมชาติอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนาวัคซีนยังคงเดินหน้าต่อไปในหลายประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยหวังว่าจะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่มาช่วยระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ อันจะทำให้การแก้ไข จัดการ และป้องกันปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ

โดยจากหลายการศึกษาพบว่า ความยากลำบากของการผลิตวัคซีนป้องกันโรคนี้คือ ไวรัส ASF มีขนาดใหญ่มาก โครงสร้างสลับซับซ้อน มีเปลือกและเยื่อหุ้มถึง 5 ชั้น โปรตีนของเซลล์ที่เชื่อมรวมกับไวรัสได้มีหลายตัว ไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้หลายช่องทาง และบางวิธีเข้าได้จำนวนมาก แอนติบอดีที่ร่างกายผลิตขึ้นมาอาจไม่มีประสิทธิภาพพอในการกำจัดไวรัส ทั้งยังพบว่าไวรัสสามารถยับยั้งภูมิคุ้มกันด่านแรก หรือชนิดไม่จำเพาะได้ จึงทำงานตอบสนองได้ไม่ดีนัก ทั้งผู้พัฒนาวัคซีนเองก็ยังอาจมีความรู้ด้านวิทยาภูมิคุ้มกันต่อไวรัส ASF นี้ไม่มากพอ เช่น เรื่องแอนติเจนของไวรัสที่จะจำเพาะสามารถกระตุ้นให้ร่างกายตอบสนอง และสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังพบว่าไวรัสชนิดนี้มีการปรับตัวตลอดเวลา ดังนั้นเชื้อไวรัสวัคซีนที่ยังมีชีวิต จึงอาจไปผสม หรือเกิดการรวมกันใหม่ของสารพันธุกรรม กับเชื้อที่รุนแรงในธรรมชาติ จนเกิดการกลายพันธุ์ เท่าที่ได้มีการศึกษากันมา พบว่าวัคซีนที่น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ และเกิดขึ้นเร็ว ทั้งในแง่การพัฒนาและประสิทธิภาพ นั่นก็คือ วัคซีนเชื้อเป็น แต่ก็ยังคงพบอุปสรรคใหญ่ตามที่กล่าวมา ส่วนวัคซีนเชื้อตาย ซับยูนิต ไวรัสเวคเตอร์ หรือ DNA วัคซีนนั้น ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ต้องศึกษาและพัฒนาควบคู่ไปเช่นกัน เพื่อให้ผู้ใช้มีทางเลือกแห่งความปลอดภัย ผลการใช้ และราคาที่เหมาะสม ท้ายสุดที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอในเรื่องนี้คือ ห้ามใช้วัคซีนเถื่อนโดยเด็ดขาด

อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ และสำคัญมากของปีนี้ก็คือ วัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องนั้นมีมากมาย อันดับแรกใกล้ตัวที่สุดคือ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในเกือบทุกปีนั้น อาจทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย รวมถึงปศุสัตว์ล้มตายกันได้ ร่วมกับโควิดที่ยังเรื้อรังทำให้ภาวะเศรษฐกิจทั้งโลก รวมถึงประเทศไทยยังคงถดถอย ซึ่งอาจเป็นเพียงแค่ปัจจัยร่วมเท่านั้น ส่วนปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน นั่นก็คือ ปรากฏการณ์ลานีญา ที่ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรงในทวีปอเมริกาใต้ นแถบฝั่งประเทศเปรู ชิลี อาร์เจนติน่า ซึ่งเป็นผู้เพาะปลูก และส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลก รวมถึงธัญพืชอีกหลายชนิด ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ราคาจึงปรับตัวเพิ่มสูงมากขึ้น โดยปรากฏการณ์ลานีญาในรอบนี้ได้เกิดขึ้นมานาน 2-3 ปีแล้ว และอาจลากยาวไปถึงช่วงต้นจนกลางปีหน้าก็เป็นได้

ซ้ำเติมด้วยอีกปัจจัยหนึ่งที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นั่นก็คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบมากมายมหาศาล เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้เป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก เช่น ข้าวสาลีที่รวมสองประเทศนี้จะมีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 4 ของโลก ยูเครนประเทศเดียวก็มีสัดส่วนมากถึง 9% ของทั้งโลก สงครามทำให้ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงประมาณ 9% และหากรุนแรงมากอีกอาจเพิ่มขึ้นถึง 21% ข้าวบาร์เล่ย์ที่ยูเครนประเทศเดียวผลิตและส่งออกก็คิดเป็น 10% ของทั้งโลก ข้าวโพดที่ยูเครนประเทศเดียวผลิตและส่งออกก็คิดเป็น 16% ของทั้งโลก ขณะที่ถ้ารวมสองประเทศจะมีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 7 ของโลก เมล็ดพืชน้ำมัน เช่น น้ำมันดอกทานตะวันที่ยูเครนมีสัดส่วนมากถึง 42% ของโลก ปุ๋ย และวัตถุดิบผลิตปุ๋ย  ส่วนใหญ่ผลิตมาจากรัสเซียคิดเป็น 13% ของโลก ยังพบว่าค่าปุ๋ยจะแปรผันตามราคาก๊าซธรรมชาติ หากแพงขึ้นก็จะทำให้ราคาปุ๋ยแพงขึ้นไปด้วย กระทบต้นทุนวัตถุดิบของภาคเกษตรกรรมอีกส่วนหนึ่ง ผลของสงครามนี้ทำให้สินค้าเกษตรทั่วโลกขาดแคลน และมีราคาสูงมากขึ้น เนื่องจากผลิตได้น้อยลง เสียหายจากสงคราม และติดค้างเพราะส่งออกไม่ได้ มีการปิดกั้นเส้นทางการคมนาคม ไม่มีบริษัทรับขนส่งเนื่องจากปัญหาความปลอดภัย ยกตัวอย่างยูเครนที่มีธัญพืชตกค้างราวๆ 20 ล้านตัน และอาจเพิ่มเป็น 75 ล้านตันภายหลังฤดูเก็บเกี่ยว และอาจมีมากถึง 30% ที่ไม่ได้รับการเก็บเกี่ยวเพราะภาวะสงคราม ซึ่งแน่นอนว่ากระทบวงการอาหารสัตว์ด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ไทย ที่มีสัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ค่อนข้างมาก

ผลของสงครามนี้ยังกระทบต่อพลังงานของโลกนี้อีกด้วย เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ผลิต และส่งออกน้ำมันรวมถึงแก๊สธรรมชาติ และถ่านหินรายใหญ่ของโลก ค่าพลังงานนี้แฝงตัวอยู่ในเกือบทุกกระบวนการผลิต เช่น ค่าเพาะปลูกเก็บเกี่ยว ค่าขนส่งกระจายสินค้า ค่าแปรรูป ค่าผลิตในทุกส่วนและทุกกระบวนการ ค่าเก็บรักษา แน่นอนว่าในวงการผลิตอาหารสัตว์ ก็ย่อมต้องได้รับผลกระทบจากค่าพลังงานที่แพงขึ้นด้วยเช่นกัน ประกอบกับมีการปรับอัตราค่า FT ไฟฟ้าในประเทศตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ปัจจัยแต่เริ่มต้นที่กล่าวมา ทำให้ราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าวสาลี มีราคาเพิ่มสูงขึ้น แม้กระทั่งวัตถุดิบที่ผลิตเองภายในประเทศ เช่น มันเส้น ก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างราคาข้าวโพดที่สูงสุดในปีนี้ สูงมากกว่าเมื่อสิบปีที่แล้วถึง 14% ราคากากถั่วเหลืองที่สูงสุดในปีนี้ สูงมากกว่าเมื่อสิบปีที่แล้วถึง 18%  ราคามันเส้นที่สูงสุดในปีนี้ สูงมากกว่าเมื่อสิบปีที่แล้วถึง 23%  ส่งผลให้ต้นทุนราคาอาหารสัตว์ไม่ว่าจะผสมเอง หรืออาหารเม็ดสำเร็จรูปจากโรงงาน ก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้นตลอดมาเรื่อยๆ ซึ่งภาครัฐก็ได้มีกลไลช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการออกมาเป็นระยะๆ

ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้ต้นทุนการผลิตสุกรต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน โดยคณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกร คณะกรรมการชุดเล็กของ Pig Board  หรือ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นประธาน ได้คำนวณต้นทุนการผลิตสุกรกรณีซื้อลูกสุกรมาเลี้ยงขุนของเดือนธันวาคมนี้สูงถึง 101.10 บาทต่อ กก. และเฉลี่ยของไตรมาสที่ 4 นี้สูงถึง 101.01 บาทต่อ กก. เทียบกับเดือนมกราคมที่สูงเพียง 75.29 บาทต่อ กก. และเฉลี่ยของไตรมาสที่ 1 นี้สูงเพียง 80.41 บาทต่อ กก. โดยที่ผ่านมาทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอให้ผู้เลี้ยงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่ระดับราคาขายสุกรขุน 100 บาทต่อ กก. จึงอาจส่งผลให้ผู้เลี้ยงหลายรายที่ไม่ได้กำไรตามที่ตั้งเป้าไว้ หยุดดำเนินกิจการไปทั้งชั่วคราวและถาวร ต้นทุนที่สูงเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ทำให้ราคาเนื้อสุกรถึงมือผู้บริโภคมีราคาสูงขึ้นกว่า 200 บาทต่อ กก. หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับชิ้นส่วนของสุกร และแต่ละช่วงเวลาที่อาจมีขึ้นลงตามกลไกของตลาด แต่ก็นับว่าสูงเป็นประวัติการณ์

ซึ่งแน่นอนว่าไม่จบเพียงเท่านี้ ยังคงมีปัญหาต่อเนื่องตามมาอีก นั่นก็คือ มีการลักลอบนำเข้าเนื้อ และชิ้นส่วน รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสุกรเข้ามาอย่างมากมายตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผ่านหลากหลายช่องทาง หลากหลายรูปแบบ ด้วยมูลเหตุจูงใจที่ว่าต้นทางที่นำมานั้นมีราคาถูกมากกว่าในประเทศ ทำให้เมื่อนำมาจำหน่ายในประเทศจะมีราคาเพียง 135-140 บาทต่อ กก. ซึ่งอาจเป็นเนื้อปกติ เนื้อตกเกรด เนื้อเป็นโรคระบาด เนื้อที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง หรือเนื้อมีปัญหาอื่นๆ  ซึ่งส่วนนี้เราก็ไม่มีทางทราบได้ว่าเป็นเนื้อนั้นจะเป็นแบบใด ดังนั้นผู้บริโภคจึงควรตระหนักรู้ และป้องกันตัวเอง รวมถึงช่วยกันรักษาระบบเศรษฐกิจให้เกษตรกร พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงในวงการปศุสัตว์ของประเทศเราให้อยู่ได้ต่อไป โดยในส่วนของภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ ก็มิได้นิ่งนอนใจ ช่วยกันสอดส่องดูแล ร่วมมือกันตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปรามจับกุมกันมาตลอด เพื่อรักษาซึ่งกฎหมาย และเพื่อผลประโยชน์ รวมถึงคุณภาพชีวิตของพวกเราชาวไทยทุกคน

ในส่วนโรคระบาดอื่นๆ ที่ต่อเนื่องมาจากปีก่อนนั้น โรคแรก ลัมปี สกิน ที่เกิดการระบาดมาตั้งแต่ มี.ค. 2564 นั้น พบว่ายังมีการระบาดประปรายเล็กน้อยในปีนี้ เนื่องจากกรมปศุสัตว์ได้เน้นให้เกษตรกร กำจัด และป้องกันโรคด้วยการทำวัคซีน โดยในช่วงแรกนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ แต่ขณะนี้กรมปศุสัตว์ทำการผลิตวัคซีนได้เองแล้ว ทั้งมีคุณภาพ และประสิทธิภาพดี ออกมาให้เกษตรกรได้ใช้กัน แนวโน้มพบโรคจึงน้อยลงไปเรื่อยๆ จนหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะปลอดโรคนี้ได้ โรคที่สอง กาฬโรคแอฟริกาในม้าที่เกิดการระบาดมาตั้งแต่ มี.ค. 2563 นั้น ด้วยผลของการเร่งควบคุม กำจัดโรค และป้องกันโรคด้วยการทำวัคซีนเช่นกัน จึงมีรายงานพบโรคครั้งสุดท้ายเมื่อ ก.ย. 2563 และไม่พบอีกเลยจนกระทั่งปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลา 2 ปีมาแล้ว กรมปศุสัตว์จึงเตรียมยื่นขอคืนสถานภาพปลอดโรคนี้จากองค์การสุขภาพสัตว์โลก (WOAH)

โรคที่สาม ไข้หวัดนก เป็นโรคที่อยู่ในความสนใจของผู้คนมาโดยตลอด เพราะเคยเกิดระบาดหนักในไทยช่วงปี 2547-2548 และพบการระบาดครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2551 จวบจนทุกวันนี้ เป็นเวลา 14 ปีแล้วที่ไม่มีรายงานการระบาดในประเทศอีก ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามยังคงพบการระบาดได้อยู่ทั่วโลก ในเอเชียปีนี้พบการระบาดในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และเพื่อนบ้านใกล้เราที่สุดคือ เวียดนาม ล่าสุดมีรายงานการระบาดและติดสู่คน ผู้ป่วยเป็นเด็กหญิงอายุ 5 ปี ติดเชื้อชนิด A สายพันธุ์ H5 แสดงอาการ 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้นไทยเราเองจึงต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูหนาวนี้ ที่จะมีนกอพยพหนีหนาวจากทางเหนือลงมา ซึ่งอาจเป็นพาหะนำเชื้อมาได้เช่นกัน ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพจึงเป็นเครื่องมือหลักสำหรับทุกโรค ไม่ว่าจะคน หรือสัตว์ชนิดใด

ในฉบับส่งท้ายปีเก่านี้ ครบถ้วนกระบวนความโดยเฉพาะส่วนที่เป็นไฮไลท์เด่นประจำปี 2565 นี้ ไม่ว่าจะเป็นโรค ASF ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ราคาเนื้อสุกร และการลักลอบนำเข้าเถื่อน และแถมให้ด้วยโรคระบาดในโค ม้า และสัตว์ปีกที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประเทศ ที่มีแนวโน้มไปในทางดี จึงขอส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยคำอวยพรให้ท่านและสัตว์เลี้ยงทุกชนิด สุขภาพแข็งแรง อยู่รอดปลอดจากทุกโรคภัย และคาดว่าปีหน้าจะ “งาน (ปัญหาในวงการปศุสัตว์) ไม่ใหญ่แน่นะวิ”…. สวัสดีปีใหม่ 2566 ครับ…:)

เอกสารอ้างอิง

ภารกิจพิชิต ASF – African Swine Fever

https://th.facebook.com/people/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%95-ASF-African-Swine-Fever/100057490087424/

https://www.swinethailand.com/17365501/pig-production-cost-q4-2565

https://dld.go.th/th/index.php/th/newsflash/341-news-hotissue/25537-hotissue-25651024-1

Scientific Report of EFSA. 28 September 2022.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related News