วิกฤตวัตถุดิบอาหารสัตว์ไทย…อะไรคือคำตอบ ?

ความยืดเยื้อของสงครามยูเครน-รัสเซีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 และยังไม่มีทีท่าจะยุติ ทำให้ห่วงโซ่การผลิตทั้งราคาพลังงาน อาหาร วัตถุดิบอาหารสัตว์ ฯลฯ ยังมีราคาอยู่ในระดับสูง ส่วนการส่งออกของประเทศไทยในปี 2565 เริ่มชะลอตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว สะท้อนให้เห็นถึงการเผชิญความท้าทายของเศรษฐกิจโลก สอดคล้องกับแนวโน้มการส่งออกของหลายประเทศในเอเชีย
ประเทศไทยที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก ด้วยการพัฒนาการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรตามหมุดหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เรื่องของต้นทุนการผลิตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยในภาคปศุสัตว์ต้องประสบกับภาวะต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ธรรมชาติของราคาสินค้าเกษตรจะมีขึ้นมีลง แต่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 และราคาอยู่ในเกณฑ์สูงจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเมื่อเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ต่างก็เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกธัญพืชอาหารสัตว์อันดับต้นๆของโลก และประกาศห้ามส่งออก เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศที่ระงับการส่งออก ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ และยังกระทบกับต้นทุนด้านพลังงาน ส่งผลให้ค่าขนส่งสินค้าปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย
ในปี 2565 นี้ จึงนับเป็นปีทองของบรรดาธัญพืชที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพราะราคาพุ่งสูงขึ้นกันอย่างถ้วนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลายข้าว มันสำปะหลัง ข้าวสาลี และกากถั่วเหลือง จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ปี 2564 พบว่า มีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10.05, 11.98, 7.79, 8.94 และ 16.51 บาท ตามลำดับ ล่าสุดราคาเฉลี่ยเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อยู่ที่กิโลกรัมละ 12.25, 13.00, 9.25, 14.25 และ 23.15 บาทตามลำดับ หรือปรับขึ้นร้อยละ 21.89, 8.51, 18.74, 59.39 และ 40.22 ตามลำดับ
ในภาวะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ได้ช่วยเหลือตัวเองทั้งการปรับประสิทธิภาพการผลิต และสรรหาวัตถุดิบทดแทนใหม่ เพื่อช่วยลดต้นทุน แต่ส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาในมาตรการนำเข้า เช่น โควตา และภาษี จึงต้องการให้ภาครัฐปรับนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการอาหารสัตว์ และผู้ประกอบการในภาคปศุสัตว์ เพื่อให้พอจะดำเนินการต่อไปได้

สำหรับภาคปศุสัตว์ โดยเฉพาะหมู ที่ปีนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงอยู่ระหว่างทยอยกลับเข้าสู่ระบบการเลี้ยง หลังประสบปัญหาการระบาดของ ASF เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ทำให้ผลผลิตหมูหายไปจากระบบกว่าร้อยละ 50 แต่ต้องมาเผชิญกับขบวนการหมูเถื่อนเข้ามาสวมรอย ยังดีที่กรมปศุสัตว์ดำเนินการกวดขันอย่างเข้มงวด ตรวจจับอย่างต่อเนื่อง หากต้องมาแบกรับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูง คงยากที่ผู้เลี้ยงจะเดินหน้าการเลี้ยงต่อไป และจะยิ่งส่งผลกระทบเป็นโดมิโนทั้งห่วงโซ่การผลิตถึงเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชไร่ อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง
การที่ไทยจะรักษาความมั่นคงอาหาร จำเป็นที่ภาครัฐจะต้องยกเลิกมาตรการที่จะส่งผลให้เกิดการบิดเบือน “กลไกตลาด” มิฉะนั้นแล้ว จะกลายเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรทั้งวงจรการผลิต ไม่แคล้วที่จะเป็นเหตุให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องล้มหายตายจากไป เพราะไม่สามารถทนแบกรับกับภาวะการขาดทุนได้ หากเป็นเช่นนั้น “ความมั่นคงอาหาร” ที่ยั่งยืนของไทยคงถึงคราวสั่นคลอน
โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยมีหนังสือทวงถามความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประกอบการอาหารสัตว์และผู้ประกอบการภาคปศุสัตว์ ไปยังนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) หลังส่งหนังสือฉบับก่อนหน้าไปแล้ว 2 เดือน ไร้เสียงตอบรับ
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เผยว่า สมาคมได้พยายามนำเสนอปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2564 จนกระทั่งเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาดำเนินการผ่อนปรนมาตรการนำเข้าข้าวสาลีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในกรอบ WTO โดยมีเงื่อนไขการจำกัดจำนวนนำเข้า และเวลานำเข้าในช่วงสั้นๆ (พฤษภาคม-กรกฎาคม 2565) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามข้อเสนอ 1 จาก 3 ข้อ ที่ สมาคมร้องขอ ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับลดลงได้ วันที่ 2 กันยายน 2565 สมาคมได้มีหนังสือไปถึงรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ขอให้รัฐปรับนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอาหารสัตว์และผู้ประกอบการภาคปศุสัตว์อีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด
สถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (บาท/กก.)
ปี | 2564 | เม.ย.65 | พ.ค.65 | มิ.ย.65 | ก.ค.65 | ส.ค.65 | ก.ย.65 | ต.ค.65 |
ข้าวโพด | 10.05 | 12.95 | 13.24 | 13.12 | 12.51 | 12.05 | 11.83 | 12.25 |
ปลายข้าว | 11.98 | 12.75 | 13.15 | 13.48 | 13.19 | 12.42 | 12.67 | 13.00 |
มันสำปะหลัง | 7.79 | 8.57 | 9.01 | 9.35 | 9.30 | 9.32 | 9.45 | 9.25 |
ข้าวสาลี | 8.94 | 13.60 | 14.00 | 13.50 | 13.50 | 14.00 | 14.00 | 14.25 |
กากถั่วเหลือง | 16.51 | 21.51 | 21.54 | 21.73 | 20.74 | 22.68 | 23.08 | 23.15 |
นายพรศิลป์ฯ กล่าวต่อว่า สมาคมคงอยู่เฉยไม่ได้ เพราะมีสมาชิกร้องเรียนเข้ามาว่าได้ยื่นเสนอโครงสร้างต้นทุนเพื่อขอปรับราคาจำหน่ายอาหารสัตว์ (Price list) ตามต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น ไปยังคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง แต่ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด การขอปรับราคาจำหน่ายอาหารสัตว์ (Price list) ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปถึงปี 2555 ซึ่งตอนนั้นราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักกว่า 70% ในการผลิตอาหารสัตว์มีราคาต่ำกว่าปัจจุบันนี้อย่างมาก
ปี | ราคาสูงสุด ในปี 2555 | ราคาสูงสุด ในปี 2565 | ส่วนต่าง (บาท/กก.) | ส่วนต่าง % |
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (บาท/กก.) | 11.60 | 13.24 | 1.64 | 14 |
กากถั่วเหลือง (บาท/กก.) | 19.60 | 23.15 | 3.55 | 18 |
มันเส้น (บาท/กก.) | 7.67 | 9.45 | 1.78 | 23 |
นายพรศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สมาคมได้คาดการณ์ว่าราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์จะยังคงสูงต่อเนื่องไปอีก 6 เดือนต่อจากนี้ จากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงมีความไม่แน่นอน และค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างมากเป็นประวัติการณ์ (อัตราแลกเปลี่ยนใน ปี 2555 อยู่ที่ 30-31 บาท/เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่ปี 2565 อยู่ที่ 36-37 บาท/เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ) จึงต้องมีหนังสือติดตามความคืบหน้าไปอีกฉบับเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา “ขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องทำแบบเร่งด่วนที่สุด คือ การอนุมัติปรับราคาจำหน่ายอาหารสัตว์ (Price list) ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นในทันที เช่นเดียวกับที่ทำให้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และต้องทำควบคู่ไปกับการปรับลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการอีกทา