การลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำ ปลาหมอคางดำลักลอบนำเข้า…ปริศนาที่ยังคงอยู่

จากรายงานข่าวการจับกุม 2 ผู้ต้องหา ลักลอบนำเข้าปูดำเถื่อน กว่า 460 กก. จากประเทศเพื่อนบ้าน ได้ที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน หลัง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) สืบทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าของผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ จึงลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลม ก่อนพบเรือต้องสงสัย และดำเนินการเข้าจับกุม

ตรวจพบ ปูดำสดประมาณ 460 กิโลกรัม เรือหางยาวพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย 1 ลำ และจับกุม 2 ผู้ต้องหาลักลอบนำเข้าปูดำโดยไม่มีเอกสารการอนุญาตลงตรา ตม.ผ่านแดน แสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงดำเนินการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักลอบนำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรและลักลอบเข้าเมืองโดยเข้าออกไม่ถูกช่องทางตามที่ทางการไทยกำหนด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ซึ่งก่อนหน้านี้ ในพื้นที่จังหวัดระนอง ก็มีการจับกุมเรือสัญชาติเมียนมา ลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 ลำ พร้อมด้วยสัตว์น้ำของกลางจำนวน 1 รายการ คือ หอยลาย จำนวน 104 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 4,680 กิโลกรัม ณ บริเวณแพสุดารัตน์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จึงได้ทำการลงบันทึกการจับกุม และส่งของกลางให้พนักงานสอบสวน แต่เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำของกลางที่ได้จากการกระทำความผิดเป็นสัตว์มีชีวิต จึงได้ดำเนินการปล่อยกลับคืนสู่ทะเล ตามระเบียบกรมประมง

การจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำอย่างผิดกฎหมาย แสดงให้เห็นว่า การลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในประเทศไทยมาช้านาน และยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด

สิ่งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบนำเข้า และขาดการขยายผลสาวไปให้ถึงต้นตอ เพื่อถอนรากถอนโคนปัญหานี้อย่างจริงจัง ซึ่งอาจเป็นเพราะคิดว่า ไม่มีผลกระทบที่รุนแรง ส่งผลให้ไทยต้องเผชิญหน้ากับปัญหาสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกรานส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

ต่างจาก ปัญหาปลาหมอคางดำ หลังจากสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ คณะทำงานที่เกี่ยวข้องสืบหาสาเหตุ และพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลการขออนุญาตนำเข้าของบริษัทแห่งหนึ่งเป็นหลัก โดยไม่พิจารณาความเป็นไปได้ของการลักลอบนำเข้าเลย แม้มีข้อมูลการส่งออก แต่ก็รับฟังคำของบริษัทส่งออก ที่ชี้แจงว่า เกิดจากการลงชื่อผิดในเอกสารการส่งออก แต่ไม่สืบถึงที่มาว่า บริษัทส่งออกเอาปลามาจากที่ใด ก่อนสรุปผลว่า ปลาหมอคางดำ ถูกนำเข้ามาเพียงครั้งเดียว ตามข้อมูลการขออนุญาต

ขณะที่การลักลอบนำเข้าไม่ได้ถูกตรวจสอบอย่างจริงจัง ซึ่งอาจเป็นเพราะจับมือใครดมไม่ได้ เพราะการจับกุมที่ผ่านมาก็ไม่เคยขยายผล ทำให้ขาดข้อมูล เมื่อพุ่งปัญหาก็พุ่งเป้าไปที่ ข้อมูลการนำเข้าเป็นหลัก ปล่อยให้การลักลอบนำเข้ายังคงเป็นปริศนาต่อไป

ยืนยันได้จากการแพร่กระจายของ กุ้งเครย์ฟิช ปลาซัคเกอร์ ปลาหมอมายัน หรือปลาหมอบัตเตอร์ ที่รุกรานแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ ที่ยังไม่รู้ใครนำเข้ามา แต่ไม่มี NGO หรือ หน่วยงานใด พยายามหาต้นตอแล้วเชื่อว่า เป็นการลักลอบนำเข้า เพราะไม่มีข้อมูลการขออนุญาตใดๆ หากเป็นเช่นนี้ปัญหาสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกรานระบบนิเวศน์และกระทบกับเศรษฐกิจก็ยังคงอยู่ต่อไป …

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related News